
รีวิว อมตะพันธุ์สยอง : Immortal Species
รีวิว อมตะพันธุ์สยอง : Immortal Species เป็นโปรเจกต์ที่มีความรำคาญต่อการถ่ายทำและทำซีนอยู่นานปี และตอนนี้มันได้โอกาสที่จะเผยแพร่และนำเสนอกันแล้ว กับการดึงตำนานของจระเข้ยักษ์มืดมิดออกมาอีกครั้ง แต่ก็ยังมีคำถามว่า..โครงสร้างเหล่านี้จะยังคงทำงานได้อยู่ในปี 2566 หรือไม่? “อมตะพันธุ์สยอง Immortal Species” เป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษากลุ่มหนึ่งได้ออกเดินทางไปตามหาต้นชาละวัน พืชหายากชนิดหนึ่งที่พบซ่อนตัวอยู่บนเกาะน้ำกลางป่าลึก แต่พวกเขาต้องต้องเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ในอดีตของชาวคณะแต่ละคน ท่ามกลางความลึกลับซับซ้อนที่ค่อย ๆ ทวีตัวขึ้นทุกขณะ และยิ่งร้ายไปกว่านั้นเมื่อทุกคนพบว่า บัดนี้พวกตนต้องตกอยู่ในอันตรายจากการเป็นเหยื่ออันโอชะของจระเข้ดึกดำบรรพ์

นี่คือผลงานล่าสุดของ บอย-เจตนิพัทธ์ สาสิงห์ ที่เคยสร้างชื่อมาจาก ๔๐๐ นักรบ ขุนรองปลัดชู ที่หากว่าใครเคยดูงานชิ้นก่อนของเขา ก็น่าจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เนิ่น ๆ เพราะแน่นอนว่ากลับมาอีกครั้งในหนนี้ มาตรฐานงานสร้างและทิศทางวิสัยทัศน์ที่มีออกมาในหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีพัฒนาการมากขึ้นสักเท่าไหร่ เผลอ ๆ อาจจะมีทิศทางที่ถอยหลังกลับลงคลองด้วยซ้ำ เพราะแต่ละจุดของหนังค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่

บอกตามตรงว่า อมตะพันธุ์สยอง Immortal Species เป็นหนังที่มีสูตรสำเร็จความเป็นหนังอสุรกายและเป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดแบบเชย ๆ ที่เต็มไปด้วยโครงสร้างที่แสนจะล้าสมัยไปเกือบจะทุกองค์ประกอบ ที่ทำให้คนดูต้องเผลอคิดไปว่า นี่เรากำลังนั่งอยู่ในโรงหนังในปี 2545 หรือย้อนกลับไปสัก 20 ปีที่แล้วอยู่หรือเปล่า เพราะแก่นของหนังที่ถ่ายทอดออกมาไม่ต่างกับหนังผจญภัยในยุคนั้น ทั้งจังหวะและลีลาที่ชวนกุมขมับ

อมตะพันธุ์สยอง Immortal Species มีบทหนังที่อยู่ในเซฟโซน ถึงจะมีวัตถุดิบค่อนข้างใช้ได้อยู่ แต่กลับถูกนำมาละเลงใส่แบบสะเปะสะปะไปหมด ซ้ำยังมีจังหวะการเล่าเรื่องที่ชวนประหลาด เต็มไปด้วยรอยต่อที่สะดุดล้มหน้าขมำได้อยู่ตลอดเวลา บทจะผจญภัยก็ใส่มาดื้อ ๆ แต่จะตัดฉับไปโหมดซึ้งผสมโรแมนซ์ก็หยอดเข้ามาแบบไร้อารมณ์ โดยที่เนื้อหากับจังหวะเพลงไม่ได้ช่วยบิ้วท์อารมณ์ให้กับคนดู แต่กลายเป็นส่วนที่ขัดอารมณ์มากกว่า

ดังนั้นในภาพรวมแล้ว อมตะพันธุ์สยอง Immortal Species ถือว่าเป็นหนังผจญภัยระทึกขวัญที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง องค์ประกอบงานสร้างและโปรดักชันต่าง ๆ ยังค่อนข้างห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ เหมือนพาคนดูย้อนกลับไปดูหนังที่เคยสร้างไว้เมื่อราว ๆ 20 ปีที่แล้ว ทั้งเนื้อหาและภาพของหนังชวนให้คิดถึงฟีลแบบนั้น อารมณ์เหมือนกับดูละครบู๊เข้าป่าจากช่องดัง แต่เมื่อมาอยู่บนจอใหญ่กลับไม่เวิร์กแบบในละคร มันกลายเป็นผลงานที่ไปได้ไม่สุดสักทาง ห้วน ๆ และจังหวะต่าง ๆ แตกกระเจิงกันไปคนละทิศทางทั้งหมด
ชมตัวอย่าง : อมตะพันธุ์สยอง Immortal Species