รีวิว Navillera
เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนต้องเคยประสบกับช่วงเวลาที่ถึงทางแยกของชีวิต ในการที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญกับชีวิตว่าสุดท้ายแล้วจะเดินหน้าต่อเพื่อความฝันที่ปรารถนาหรือไปอีกทางที่มีความเป็นไปได้มากกว่า และบางทีมันอาจจะเหมาะกับตัวเราเองมากกว่า เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มชื่อว่า “อีแชรก” วัย 23 ปี ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักบัลเลต์เช่นเดียวกับแม่ของเขา ที่ลาโลกนี้ไป หลังจากที่พ่อของเขาเองก็ติดคุก ทำให้อีแชรกต้องหาเงินและดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองมาตลอด เขาเลือกที่จะรับงานที่ทำเงินได้ไปก่อนและละความฝันของตนเอาไว้

แต่ในใจลึก ๆ ของชายหนุ่มนั้นยังโหยหาการได้ดื่มด่ำกับความสมใจหมาย เวลาเดียวกันกับชายชราอายุ 70 ปีอย่าง “ชิมด็อกชุล” ที่เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตหลังเกษียณของตัวเอง เขาเริ่มกลับมานึกคิดถึงความฝันการเป็นนักบัลเลต์อีกครั้ง เพราะเขานั้นตลอดชีวิตต้องเลือกทำตามที่พ่อของเขาเห็นว่าสมควรมาตลอด จนถึงตอนนี้เขาได้โอกาสใหม่อีกครั้ง แต่ด้วยความชรามันก็เป็นเรื่องยากที่จะใช้ร่างกายในการเต้นบัลเลต์แต่หัวใจของเขานั้นแข็งแกร่งและเชื่อว่าความฝันของคนเราไม่เคยหมดอายุ หลังจากได้ดูการฝึกซ้อมของอีแชรกก็ทำให้เขานั้นมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง และต้องการสานต่อความตั้งใจจนนำมาซึ่งการต่อสู้เพื่อความรัก ความฝันของชายสองคนที่มีมิตรภาพต่างวัยให้แก่กัน

ซีรีย์ออริจินัลของ Netflix เรื่องนี้ถือเป็นสุดยอดความดราม่าของจริง มันเป็นความลึกซึ้งของการเล่าเรื่องที่มีผลกระทบอย่างมากต่อผู้ชมหลาย ๆ คน เพราะเราเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่สามารถทำความฝันของตนได้อย่างใจนึก หลายคนต้องยอมแพ้เพราะเหตุผลหลายอย่างที่เข้ามา หลายคนพับเก็บความฝันของตัวเองเพราะคำว่าเป็นไปไม่ได้ หรือแม้แต่ใส่ใจคนอื่นมากเกินไป

การเล่าเรื่องของซีรีย์นั้นมุ่งเน้นไปที่สร้างแรงบันดาลใจเป็นหลัก ทำให้เราได้เสพทั้งความสวยงามของภาพ ดนตรีประกอบ และฝีมือของนักแสดงทุกคนที่ถ่ายทอดความรู้สึกได้มีมิติ ถึงแม้จะเป็นซีรีย์ดราม่าบอกเลยว่าไม่มีความเนือยอย่างแน่นอน แต่มันกลับสร้างความตราตรึงให้คนที่ดูมากกว่า หากใครเคยข้ามซีรีย์น้ำดีแห่งปีเรื่องนี้ไป ขอให้ลองชมสักตอน แล้วจะเข้าใจว่าความคุ้มค่าดีต่อใจมันเป็นยังไง
ชมตัวอย่าง : Navillera