วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเกมที่เป็นต้นกำเนิดของเกมประเภท MOBA (Multiplayer online battle arena) กัน สำหรับนักเล่นเกมทั่วโลกจะรู้จักเกมนี้ในชื่อที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า DOTA 2 (Defense of the Ancients) เดิมทีแล้ว DOTA ส่วนนี้เป็นเพียงส่วนเสริมส่วนหนึ่ง (MOD) ในเกม Warcarft III เท่านั้น โหมดนี้เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักเล่นเกมหลาย ๆ คนมาก ทางผู้พัฒนาเกมของ Value Co-operation จึงได้สร้างและพัฒนาโครงการ DOTA ขึ้นมา โดยให้นักออกแบบเกมที่ใช้ชื่อว่า Icefrog มาเป็นผู้นำในการพัฒนาเกมนี้ขึ้นมาในปี 2009 โดยเรียกชื่อเกมนี้ว่า DOTA 2

รูปแบบของเกม พวกเขาได้นำตัวฮีโร่ต่าง ๆ ของทั้ง 3 เผ่าที่อยู่ในเกม Warcraft มาเป็นตัวเล่นในเกม โดยจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 5 คนในแผนที่เดียวกัน ฝ่ายหนึ่งจะเรียกว่า Radiant และอีกฝ่ายจะเรียกว่า Dire ทั้งสองฝ่ายจะต้องฆ่าศัตรูเพื่อที่จะหาเงินไว้ไปซื้อไอเท็มต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเกมเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีพลังที่สูงกว่าฝ่ายตรงข้ามเพื่อที่จะเข้าทำลายป้อมและบ้านของฝั่งตรงข้ามได้ หากฝ่ายใดฝ่ายนึงโดนทำลายป้อมได้ถือว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้แพ้ ความพิเศษของ DOTA 2 นี้คือ เราสามารถสังหารครีปฝ่ายตัวเองหรือพังป้อมของตัวเองเพื่อให้ศัตรูได้ค่าประสบการณ์ได้ด้วย นอกจากนี้เมื่อเราถูกสังหารเงินที่เราสะสมไว้จะลดลงไป แต่ถ้าหากผู้ตายมีเงินเยอะมากพอก็จะสามารถใช้เงินนี้ให้ตัวเองเกิดใหม่ได้

รูปแบบของเกม พวกเขาได้นำตัวฮีโร่ต่าง ๆ ของทั้ง 3 เผ่าที่อยู่ในเกม Warcraft มาเป็นตัวเล่นในเกม โดยจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 5 คนในแผนที่เดียวกัน ฝ่ายหนึ่งจะเรียกว่า Radiant และอีกฝ่ายจะเรียกว่า Dire ทั้งสองฝ่ายจะต้องฆ่าศัตรูเพื่อที่จะหาเงินไว้ไปซื้อไอเท็มต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเกมเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีพลังที่สูงกว่าฝ่ายตรงข้ามเพื่อที่จะเข้าทำลายป้อมและบ้านของฝั่งตรงข้ามได้ หากฝ่ายใดฝ่ายนึงโดนทำลายป้อมได้ถือว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้แพ้ ความพิเศษของ DOTA 2 นี้คือ เราสามารถสังหารครีปฝ่ายตัวเองหรือพังป้อมของตัวเองเพื่อให้ศัตรูได้ค่าประสบการณ์ได้ด้วย นอกจากนี้เมื่อเราถูกสังหารเงินที่เราสะสมไว้จะลดลงไป แต่ถ้าหากผู้ตายมีเงินเยอะมากพอก็จะสามารถใช้เงินนี้ให้ตัวเองเกิดใหม่ได้
เรียบเรียงโดย : เว็บรีวิวหนัง
เกม: Dota2